สารบัญ:
การเพิ่มลูกค้ารายแรกในเครือตั้งแต่ปี 2552 ลดลง 1.9% ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2551
T-Mobile เพิ่งเปิดตัวผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2013 และมีตัวเลขที่เป็นบวกอย่างมากที่จะสะท้อนในไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่รวมการควบรวมกิจการ MetroPCS ที่เพิ่งปิดไป แต่ก็ครอบคลุมถึงช่วงเวลาที่นำไปสู่การสร้างแบรนด์ใหม่ "UNcarrier" ที่น่าทึ่งของ T-Mobile ให้คะแนนสูง:
- ขาดทุนสุทธิแบบรายเดือนที่มีตราสินค้าของลูกค้า 199, 000 รายเพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบเป็นรายปี
- กำไรสุทธิแบบพรีเพดแบรนด์ของลูกค้า 202, 000 ราย
- ลูกค้าทั้งหมด 34 ล้านคน ณ สิ้นไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 576, 000 รายเมื่อเทียบกับไตรมาส
- ปั่นแบบรายเดือนมีตราสินค้าร้อยละ 1.9 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2551
- EBITDA (อธิบายด้านล่าง) ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ลดลง 7.5% yoy แต่เพิ่มขึ้น 12.4% qoq
- รายจ่ายฝ่ายทุน 1.1 พันล้านดอลลาร์ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับปรุงเครือข่าย
Q1 ทำเครื่องหมายเหตุการณ์สำคัญบางประการสำหรับ T-Mobile ด้วยการเพิ่มลูกค้ารายแรกใน 4 ปีและลูกค้าที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นหลายไตรมาสในขณะนี้ T-Mobile ที่ลดลงของลูกค้ารายเดือนและการเพิ่มขึ้นของลูกค้าแบบเติมเงินส่งผลให้รายได้ลดลง EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บริษัท ดำเนินงานตามเกณฑ์การดำเนินงานอย่างไรลดลง 7.5% เช่นเดียวกับรายได้โดยรวม 7% ARPU (รายรับเฉลี่ยต่อผู้ใช้) สำหรับลูกค้าระบบรายเดือนลดลง 6.3% มาอยู่ที่ $ 54.07 แต่ ARPU แบบชำระล่วงหน้ายังคงเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสโดยครั้งนี้เพิ่มขึ้น 11.3% เป็น 28.25 ดอลลาร์
ดังที่เราได้เห็นมาหลายไตรมาสแล้วในขณะนี้ T-Mobile ยังคงโพสต์ตัวเลขที่แข็งแกร่ง แต่ยังมีรายได้ต่อผู้ใช้จ่ายล่วงหน้าซึ่งไม่ใช่สถานการณ์ที่น่ากลัวที่จะเข้ามาผู้ให้บริการบอกว่า 36% ของลูกค้าเลือก เพื่อย้ายไปยังแผนของ Value หรือ Simple Choice เพิ่มขึ้นจาก 30% ในไตรมาสก่อน ผู้ให้บริการยังได้ทำการเปิดเผยผลกำไรเพื่อย้ำแผนการของ LTE ซึ่งยังคงรวมสถิติปัจจุบันของตลาดเต็มรูปแบบ 7 ตลาด LTE และเป้าหมายของการได้รับความคุ้มครอง LTE ถึง 200 ล้านป๊อปในสิ้นปี 2556 จะมองในแง่ดีและเราจะคาดหวังผลลัพธ์ที่น่าสนใจไม่แพ้กันในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า
ที่มา: T-Mobile